วันนี้ (30 พฤศจิกายน 2566) เวลา 15.00 น. ณ ฮอสการ์ดคลับ กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ประธานคณะกรรมการจัดงาน Princess’s Cup Thailand 2023 เป็นประธานการแถลงข่าว โดยมีผู้ร่วมแถลงข่าว นายนารา เกตุสิงห์ เลขาธิการสมาคมกีฬาขี่ม้าแห่งประเทศไทย
นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา มีพระวินิจฉัยให้จัดการแข่งขันกีฬาขี่ม้ารายการ Princess’s Cup Thailand 2023 และทรงรับเป็นองค์ประธานอำนวยการนโยบาย วัตถุประสงค์เพื่อเป็นการส่งเสริมกีฬาขี่ม้า เพิ่มพูนทักษะ และประสบการณ์การแข่งขัน ตลอดจนเป็นการเชื่อมความสัมพันธ์อันดีของนักกีฬาขี่ม้าและสโมสรขี่ม้าต่าง ๆ
“การจัดงาน Princess’s Cup Thailand ในปีนี้ เป็นการจัดงานครั้งที่ 9 จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 7-17 ธันวาคม 2566 ณ กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ สนามเป้า กรุงเทพฯ ภายใต้แนวคิด ‘Enjoy Our Gender Equality Sport with Harmony of Horse and Human’ ที่สะท้อนแง่มุมความพิเศษของกีฬาขี่ม้า ซึ่งเป็นกีฬาประเภทเดียวที่แข่งขันโดยไม่แบ่งแยกเพศ จึงเรียกได้ว่าเป็น ‘กีฬาแห่งความเท่าเทียม’ และยังเป็นกีฬาที่มีเสน่ห์เฉพาะตัวที่ต้องผสมผสานทั้งศาสตร์และศิลป์ ความเป็นหนึ่งเดียวกันของคนกับม้าด้วย โดยภายในงานจะมีการจัดกิจกรรมที่หลากหลาย ทั้งการแข่งขันเกี่ยวกับม้า การแข่งขันเกี่ยวกับสุนัข นิทรรศการ รวมทั้งกิจกรรมความบันเทิงสำหรับทุกเพศทุกวัย”
นายนารา เกตุสิงห์ เลขาธิการสมาคมกีฬาขี่ม้าแห่งประเทศไทย ให้รายละเอียดเกี่ยวกับกิจกรรมภายในงานเพิ่มเติมว่า จะมีการแข่งขันกีฬาขี่ม้า 2 รายการใหญ่ คือ 1. FEI SEA Youth Cup 2023 ระหว่างวันที่ 7-10 ธันวาคม 2566 ซึ่งประเทศไทยได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพ ในการจัดแข่งขันเป็นครั้งแรก เนื่องด้วยสหพันธ์กีฬาขี่ม้านานาชาติ เล็งเห็นถึงความสำคัญในการส่งเสริมให้เกิดความต่อเนื่องของการแข่งขันกีฬาขี่ม้าระดับเยาวชน ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จึงจัดการแข่งขัน FEI SEA Youth Cup ขึ้น ในปีที่ไม่มีการแข่งขันซีเกมส์ หรือกีฬาขี่ม้าไม่ได้ ถูกบรรจุในซีเกมส์ และรายการ Princess’s Cup Thailand (ระหว่างวันที่ 11 – 17 ธันวาคม 2566) ชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา แบ่งเป็น การแข่งขัน 5 ประเภท ได้แก่ ศิลปะบังคับม้า, การขี่ม้ากระโดดข้ามเครื่องกีดขวาง, อีเวนท์ติ้ง, สุดยอดผู้ดูแลม้า และ สุดยอดช่างเกือกม้า
อีกกิจกรรมสำคัญคือการแข่งขันเกี่ยวกับสุนัข ซึ่งในการแถลงข่าวครั้งนี้มีการแสดงโชว์ของสุนัขทรงเลี้ยงทั้งหมด 4 สุนัข ได้แก่ สุนัขพันธุ์ยอร์คเชียร์เทอร์เรีย คุณโคโม่ และ คุณนาโกย่า , สุนัขพันธุ์ปาปิยอง คุณบัตเตอร์ฟลาย และสุนัขพันธุ์ลาบาดอร์ คุณเอ็มไอ6 เพื่อสร้างการรับรู้ของกิจกรรมที่เกี่ยวข้องคือ 1. การแข่งขันสุนัขใช้งานสากล เป็นการทดสอบความสามารถเพื่อประเมินสุนัขที่เหมาะสมต่อการปฏิบัติงานอารักขา 2. การแข่งขันประกวดสุนัขสวยงามทุกสายพันธุ์ และ 3. งานวิ่งกับสุนัข (Dog Fun Run)
ภายในงานยังมีนิทรรศการ ซึ่งแบ่งออกเป็น 4 ส่วน ได้แก่ 1. พระจริยวัตรของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ที่ทรงเล็งเห็นความสำคัญ และทรงส่งเสริมกีฬาขี่ม้าในทุกมิติ ผ่านโครงการ อาทิ โครงการบ้านพักม้าชรา ด้วยทรงห่วงใยสุขภาพและความเป็นอยู่ของม้าหลังปลดประจำการ, โครงการอาชาบำบัด
การใช้ม้ามาช่วยในการบำบัดกลุ่มเด็กพิเศษ ทั้งด้านร่างกาย และอารมณ์, และโครงการปุ๋ยมูลม้า 2. ศูนย์เวชศาสตร์ฟื้นฟูม้า สถานพยาบาลม้าที่มีความทันสมัย มีขีดความสามารถด้านการรักษาขั้นสูง พร้อมด้วยเครื่องมือทางการสัตวแพทย์ที่มีประสิทธิภาพ 3. โครงการผ้าไทย เพื่อสืบสาน รักษา และต่อยอดภูมิปัญญาผ้าไทยให้ทันสมัยตามความต้องการในยุคปัจจุบันกับทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงจัดแสดงข้อมูลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการจัดงาน อาทิ การแข่งขันเอเชี่ยนเกมส์, พระราชทานสิ่งของช่วยเหลือ สาธารณรัฐตุรกี, การดำเนินงานของกรมปศุสัตว์ ในการยื่นขอคืนสถานภาพปลอดกาฬโรคในม้า (AHS) อย่างเป็นทางการ
และท้ายสุดคือ Flea Market และกิจกรรมนันทนาการต่างๆ เรียกได้ว่าเป็นการเปิดพื้นที่พบปะสังสรรค์บรรยากาศดีกลางกรุง ให้ประชาชนได้มาชอปปิ้งสินค้าสไตล์วินเทจ ชิมอาหารอร่อย ถ่ายรูปเช็คอิน ในวันที่ 15-17 ธันวาคม 2566 และเพิ่มเติมความพิเศษ ด้วยการแสดงดนตรีในสวน บรรเลงบทเพลงไพเราะ โดยวง Royal Bangkok Symphony Orchestra (RBSO) ในวันที่ 15 ธันวาคม อีกด้วย
จึงขอเชิญชวนประชาชนที่สนใจ มาเติมเต็มความสุขในช่วงส่งท้ายปี กับการเข้าร่วมชมการแข่งขันกีฬาขี่ม้า การประกวดและแข่งขันสุนัข และเลือกซื้อสินค้าภายในงาน ระหว่างวันที่ 7-17 ธันวาคม 2566 ตั้งแต่ 09.00 น.
เป็นต้นไป ณ สนามแข่งขันกีฬาขี่ม้า กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ สนามเป้า (BTS สนามเป้า) กรุงเทพฯ เข้างานฟรี!