โรงพยาบาลพระรามเก้า ผู้เชี่ยวชาญในการรักษาโรคยากซับซ้อน ครอบคลุมทั้งโรคทั่วไปและโรคเฉพาะทาง เปิดตัว “9CARE Application” นำนวัตกรรมทางการแพทย์และเทคโนโลยีดิจิทัลมาช่วยออกแบบการดูแลสุขภาพแบบ Personalized กับ 9CARE Service แผนการดูแลสุขภาพแบบ 4D (4ดี) “ไตดี ใจดี กินดี หุ่นดี” เพิ่มประสิทธิภาพการรักษาที่ต่อเนื่องจากโรงพยาบาลสู่บ้านผู้ป่วยด้วย Digital Care Plan สามารถมอนิเตอร์ค่าสุขภาพแบบ real time ดูแลอย่างใกล้ชิดโดยทีมแพทย์และพยาบาลวิชาชีพ ด้วย Telemedicine พร้อมเนรมิต ‘9CARE Shop’ ศูนย์รวม Gadget เพื่อสุขภาพสุดล้ำ หนึ่งเดียวจบครบทุกบริการ เสมือน ‘ยกโรงพยาบาลมาไว้ที่บ้านคุณ’
รศ.พญ.รวีรัตน์ สิชฌรังษี กุมารแพทย์โรคภูมิแพ้และภูมิคุ้มกัน และที่ปรึกษาศูนย์โรงพยาบาลออนไลน์ โรงพยาบาลพระรามเก้า (Praram9V) กล่าวว่า “เพื่อเป็นการขยายรูปแบบการให้บริการแพทย์ทางไกล หรือ Decentralized Healthcare Services และให้การรักษาผู้ป่วยเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ผู้ป่วยจึงจำเป็นต้องได้รับการติดตามการรักษาที่ต่อเนื่อง โดยเฉพาะผู้ป่วยกลุ่มโรคยากซับซ้อน ที่จะต้องมีการการดูแลเป็นพิเศษจากทีมแพทย์เฉพาะทาง โรงพยาบาลพระรามเก้า จึงมีความตั้งใจที่จะสร้างนวัตกรรมในการดูแลผู้ป่วย เพื่อให้มีผลการรักษาที่มีประสิทธิภาพที่ต่อเนื่องจากโรงพยาบาลไปจนถึงที่บ้าน โดยการนำเทคโนโลยีดิจิตอล เข้ามาผสมผสานการให้การบริการในมาตรฐานอันดีเยี่ยมของโรงพยาบาลพระรามเก้า เพื่อยกระดับการดูแลรักษาโรคยากซับซ้อนและเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษา เสมือนยกโรงพยาบาลมาไว้ที่บ้านคุณ
ครั้งนี้เราได้จับมือกับ บริษัท เซนโกรท จำกัด (Zanegrowth) ซึ่งเป็นพันธมิตรด้านเทคโนโลยี มาร่วมพัฒนา solution สร้างบริการทางการแพทย์ ผสานประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของทีมแพทย์และพยาบาลโรงพยาบาลพระรามเก้า เพื่อแอปพลิเคชัน 9CARE นี้สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น ให้แอพพลิเคชันนี้สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์วัดค่าสุขภาพต่างๆ ผสานกับแผนการดูแลสุขภาพเฉพาะบุคคล ผ่านการดูแลอย่างใกล้ชิดโดยทีมแพทย์และพยาบาลวิชาชีพที่มีความเชี่ยวชาญโรคเฉพาะทาง สามารถมอนิเตอร์ค่าสุขภาพแบบ real time และสามารถปรึกษาแพทย์ได้อย่างสะดวกรวดเร็ว ด้วยระบบ Telemedicine
สำหรับความอัจฉริยะของแอปพลิเคชัน 9CARE นี้ จะมีแผนการดูแลสุขภาพเฉพาะบุคคล (Personal care plan) ที่เหมาะสมสำหรับผู้ใช้บริการในแต่ละท่าน โดยมีแพทย์เป็นผู้สร้างแผนการดูแลร่วมกับผู้ใช้บริการ และมีทีมพยาบาลวิชาชีพผู้เชี่ยวชาญประสานงานกับทีมแพทย์ คอยให้การดูแลตลอดแผนอย่างใกล้ชิด ซึ่งแอปพลิเคชันนี้จะทำการเชื่อมโยงกับบริการทางการแพทย์ต่างๆ ภายในโรงพยาบาล อาทิ ค่าสุขภาพต่างๆ ที่แพทย์ต้องการมอนิเตอร์
โดยแอปพลิเคชัน 9CARE ก็จะเชื่อมโยงอุปกรณ์ในการวัดค่าสุขภาพ อันได้แก่ เครื่องวัดความดันโลหิต เครื่องวัดระดับน้ำตาลในเลือด เครื่องวัดระดับออกซิเจนในเลือด เครื่องวัดอุณหภูมิร่างกาย เครื่องชั่งน้ำหนัก และ Smart Watch ดังนั้น การให้บริการของ 9CARE ก็เปรียบเสมือนกับการยกโรงพยาบาลเข้ามาไว้ที่บ้าน และยังสามารถเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพให้กับคนในครอบครัวของผู้ป่วยรับทราบได้อีกด้วย
นอกจากแอปพลิเคชันอัฉริยะ 9CARE แล้ว ทางโรงพยาบาลพระรามเก้า ยังได้สร้าง ‘9CARE Shop’ เพื่อให้เป็นศูนย์รวม Gadget ด้านสุขภาพที่ครบวงจรที่สุด โดยภายใน 9CARE Shop จะให้บริการ ติดตามภาวะสุขภาพด้วย Medical IOT จากผู้เชี่ยวชาญ พร้อมให้คำปรึกษาผ่าน Telemedicine เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้รับบริการในทุกมิติ”
รศ.พญ.รวีรัตน์ กล่าวต่อว่า “เป้าหมายหลักของเรา คือการสร้างมิติใหม่ในการดูแลผู้ป่วยด้วย 9CARE Service กับนิยามการดูแลสุขภาพภายใต้ รูปแบบ 4D(4ดี) ประกอบด้วย ไตดี ใจดี กินดี หุ่นดี กล่าวคือ เป็นบริการในการดูแลสุขภาพสำหรับผู้ป่วยโรคไต โรคหัวใจ โรคเบาหวาน และผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก
“ปัจจุบันแอปพลิเคชัน 9CARE รองรับทั้งระบบ iOS และ Android และสามารถดาวน์โหลดได้จาก App store และ Play Store สามารถใช้ร่วมกับอุปกรณ์ หรือ gadget ที่เชื่อมกับ application ดังนี้ เครื่องวัดความดันโลหิต – OMRON, Beurer , เครื่องวัดระดับออกซิเจนในเลือด – TAIDOC, Beurer, Bluedot , เครื่องวัดระดับน้ำตาลในเลือด – ACCU-CHEK , เครื่องวัดอุณหภูมิร่างกาย – TAIDOC, Beurer, Bluedot , เครื่องชั่งน้ำหนัก – Mi, Beurer, Bluedot , และ Smart watch – Apple Watch, Garmin, Fitbit เป็นต้น”
รศ.พญ.รวีรัตน์ กล่าวถึงแผนในอนาคตว่า “ในก้าวต่อไป โรงพยาบาลพระรามเก้ามีแผนที่จะต่อยอดขยายการบริการ เพื่ออำนวยความสะดวกและส่งเสริมการเข้าถึงบริการการแพทย์ได้อย่างสมบูรณ์ อาทิ
1. การรองรับการเชื่อมต่ออุปกรณ์ตรวจวัดสุขภาพประเภทต่าง ๆ ให้หลากหลายมากขึ้น
2. การทำนัดและขอปรึกษาแพทย์ที่สะดวก รวดเร็ว และง่ายต่อการเข้าถึงผ่านช่องทางต่าง ๆ (Omni Channel)
3. Wellness and Fitness Program โปรแกรมเพื่อส่งเสริมการดูแลสุขภาพให้แข็งแรงและลดความเสี่ยงต่อความเจ็บป่วยหรือโรคต่างๆ
นอกจากนี้ โรงพยาบาลมีแผนที่จะขยายแอปพลิเคชัน ให้เชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มอื่นๆ ในระบบออนไลน์ ร่วมกับ partnership ในธุรกิจต่างๆ เช่น คอนโดและหมู่บ้าน เพื่อให้สามารถเข้าถึงผู้ใช้งานในวงกว้าง รวมถึงนำแพลตฟอร์มไปใช้เพื่อเป็นประโยชน์กับองค์กรต่าง ๆ ในการดูแลบุคลากร เช่น ห้องพยาบาลของสำนักงานต่าง ๆ โรงเรียน หรือ nursing home เป็นต้น รวมถึงขยายการใช้งานไปยังกลุ่มคนไข้ของโรงพยาบาลในกลุ่มโรคซับซ้อนต่าง ๆ ให้มากขึ้นต่อไปในอนาคต
อีกทั้ง ยังมีแผนที่จะนำเทคโนโลยี เช่น chat GPT เข้ามาเป็นตัวเสริมในด้านการบริการให้ดียิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น การช่วยให้ข้อมูล ถาม- ตอบด้านสุขภาพเบื้องต้น, การพัฒนา Avatar (พยาบาลเสมือน) บนTablet เพื่อให้คนไข้สามารถพูดคุยและโต้ตอบกับ Avatar Caregiver ได้เสมือนมีพยาบาลอยู่เคียงข้าง, อีกทั้งตัว Tablet จะใช้ imaging AI ในการดูแลว่าคนไข้หกล้มหรือต้องการความช่วยเหลือหรือไม่ โดยที่คนไข้ไม่ต้องกดหรือใช้อุปกรณ์ขอความช่วยเหลือในบ้าน
ตลอดจนแผนพัฒนาการให้บริการด้านการแพทย์อื่น ๆ ในอนาคตที่จะสามารถครอบคลุมการดูแลรักษาคนไข้อย่างต่อเนื่องได้ ไม่ว่าจะเป็น การตรวจเลือดถึงบ้าน การบริการให้น้ำเกลือ รวมถึงให้การพยาบาล ดูแลที่บ้าน เป็นต้น ซึ่งบริการเหล่านี้ จะเปรียบเสมือน การที่เรายกโรงพยาบาลมาไว้ที่บ้าน และเป็นการขยายรูปแบบการให้บริการแพทย์ทางไกล หรือ Decentralized Healthcare Services ตามแนวทางที่ทางโรงพยาบาลตั้งเป้าไว้ได้อีกด้วย” รศ.พญ.รวีรัตน์ ทิ้งท้าย
แอปพลิเคชัน 9CARE ผู้ช่วยดูแลสุขภาพแบบ Personalized โดย โรงพยาบาลพระรามเก้าได้ รองรับทั้งระบบ iOS และ Android และสามารถดาวน์โหลดฟรีได้แล้ววันนี้ที่ App store และ Play Store สอบถามเพิ่มเติมโทร. 1270 หรือ www.praram9.com / Line: lin.ee/vR9xrQs หรือ @praram9hospital และทาง Facebook: Praram9 Hospital โรงพยาบาลพระรามเก้า HEALTHCARE YOU CAN TRUST เรื่องสุขภาพ…ไว้ใจเรา #Praram9Hospital